หลายๆ ท่านคงเคยเห็นรถบรรทุกและต้องบ่นโอดกลัวการเข้าใจในเวลาขับขี่กันใช้มั้ยหล่ะครับ ซึ่งเจ้ารถบรรทุกนี้มีอะไรแปลกแยกจากรถธรรมดาทั่วไปในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวรถบรรทุกเอง เครื่องยนต์หรือประเภทของรถที่คนทั่วไปอย่างพวกเราคงไม่รู้จักอย่างแน่นอน บทความนี้จึงขออาสาพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับ “รถบรรทุก” และพบกับ “เทคนิคดูแลเครื่องยนต์รถบรรทุก” อีกด้วยครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปชมกันดีกว่าครับ

ทำความรู้จักกับ รถบรรทุก

รถบรรทุก หมายถึง รถที่ใช้บรรทุกสิ่งของต่างๆ ที่มีหลายขนาด มีขนาด กำลัง และรูปแบบมากมาย โดยเฉพาะรถบรรทุกประเภทที่ใช้ในการขนส่งเพื่อการค้า ทั้งอาจใช้ในหน้าที่พิเศษต่างๆ ที่ถูกเติมแต่งขึ้นเพื่องานนั้นๆ โดยตรง  อาทิเช่น รถประจญเพลิง และรถโม่คอนกรีต เป็นต้น ปัจจุบัน รถบรรทุกส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแกโซลีนหรือดีเซลครับ โดยรถบรรทุกคันแรกของโลกได้ผลิตขึ้นโดย Gottlieb Daimler ในปี 1896 โครงสร้างเป็นเหล็ก ล้อทำด้วยไม้ ใช้เครื่องยนต์แบบสองสูบ ขนาดความจุ 1.06 ลิตร ในปีต่อมาก็ได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยสายพาน พร้อมกับติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ การพัฒนารถบรรทุกเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในปี 1898 ได้มีการนำรถบรรทุกไปจัดแสดงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสและได้รับความสนใจนั้นเองครับ

รถบรรทุกมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

ประเภทรถบรรทุก หรือรถขนส่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1. รถบรรทุก 4 ล้อ เช่น รถตู้ขนาดเล็ก รถตู้และรถกระบะ

2. รถบรรทุก 6 ล้อ

3. รถบรรทุก 10 ล้อ

4. รถบรรทุก 18 ล้อ หรือรถเทรลเลอร์

ซึ่งรถขนส่งที่มีขนาดใหญ่ จะมีความสามารถในการขนของที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น และรับน้ำหนักได้มากขึ้นอีกด้วย

เทคนิคดูแลเครื่องยนต์รถบรรทุก

●ดูแลระบบน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์

น้ำมันหล่อเย็นเป็นส่วนของเหลวที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ไว้ไม่ให้สูงเกินไป เพราะถ้าอุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดภาวะ “Overheat” ซึ่งเป็นอาการร้ายแรงต่อการทำงานของเครื่องยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเสียหายรุนแรงถึงขั้นต้องยกเครื่องกันเลยทีเดียว เพียงเพราะสาเหตุที่เจ้าของปล่อยปะละเลยให้น้ำในหม้อน้ำแห้ง

●ดูแลน้ำมันเครื่อง

ส่วนที่ช่วยในการหล่อลื่นการทำงานของส่วนประกอบเครื่องยนต์ภายในก็คือ น้ำมันเครื่อง ส่วนของเหลวที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงาน น้ำมันเครื่องนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งที่ต้องดูแล แม้สำหรับรถใหม่ป้ายแดง เพิ่งเข็นออกจากศูนย์ก็ตาม แรก ๆ การใช้งานอาจจะไม่ต้องสนใจเท่าไร แต่พอใช้รถไปสักระยะ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายแล้ว เพื่อทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ยังคงหล่อลื่นและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

●น้ำมันเกียร์

แทบจะเป็นของคู่กัน เพราะสำคัญไม่น้อยไปกว่าน้ำมันเครื่องเลย เพราะถ้าส่วนของเกียร์ “พัง” ขึ้นมา ค่าซ่อมที่คุณเจออาจจะทำให้ปวดขมับได้เลย แม้ความถี่ในเรื่องของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะไม่บ่อยเท่ากับน้ำมันเครื่อง อีกทั้งกับรถใหม่ป้ายแดง การดูแลในส่วนนี้จะเริ่มก็ต่อเมื่อเลขไมล์ของรถอยู่ที่ระดับ 30,000 – 50,000 กิโลเมตร แต่ไม่ว่ายังไง ก็จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด ไม่ควรเผลอไผลใช้รถยาวจนลืมดูแลที่ส่วนนี้

● แบตเตอรี่

ส่วนใหญ่แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานอยู่ราว 1 ปี หลังจากนั้นอาการแบตฯ เสื่อมจะเริ่มออก ตัวแบตฯ มีอาการเก็บไฟที่ได้จากการชาร์จไม่อยู่ และส่งผลให้การทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ และการทำงานของเครื่องยนต์ในรถคุณไม่เต็มประสิทธิภาพ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เทคนิคดูแลเครื่องยนต์รถบรรทุก” ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกันในบทความนี้ หวังว่าจะชอบกันนะครับ